ปลาวาฬบลูด้า พี่ใหญ่แห่งท้องทะเลที่สามารถหาชมได้ตามธรรมชาติในประเทศไทยบ้านเรา ซึ่งในปัจจุบันนี้จะเหลือเพียงแค่ 61 ตัวเท่านั้น !
ปลาวาฬบลูด้า เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะฉลาดแล้ว ยังใจดีและไม่ตื่นตกใจง่ายอีกด้วย หากใครที่อยากชื่นชมความน่ารักของวาฬชนิดนี้ มาดูกันดีกว่าว่าจะต้องไปที่ไหนและต้องทำอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จักปลาวาฬบลูด้า
ปลาวาฬบลูด้า (Bryde’s Whale) เป็นวาฬชนิดหนึ่งที่หาชมได้ยากและใกล้ที่จะสูญพันธุ์ ซึ่งในประเทศไทยพบทั้งหมดเพียง 61 ตัวเท่านั้นและได้ขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์สงวนอีกด้วย ซึ่งปลาวาฬบลูด้าจะมีลักษณะเด่นที่ครีบหลังโค้งงอค่อนไปทางปลายหาง มีสันบริเวณด้านบนของปากที่เด่นชัดถึง 3 สันและมีหางที่เว้าลึกมาจนถึงกลางหาง โดยทั่วไป ปลาวาฬวาฬบลูด้าจะพบได้ตามทะเลเขตอบอุ่นทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยเองจะพบได้ที่ทะเลฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน
ดูปลาวาวาฬบลูด้าได้ช่วงไหน?
หากอยากล่องเรือชมปลาวาฬบลูด้า สามารถออกไปชมได้ 3 ฤดูกาลในแต่ละปี
- ช่วงระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน เป็นช่วงที่ลาวาวาฬบลูด้าว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำทะเลบ่อยที่สุด เนื่องจากช่วงเดือนนี้จะเป็นช่วงที่ปลากะตักและกุ้งเคยซึ่งเป็นอาหารหลักของวาฬมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด แต่จะเป็นช่วงมรสุมที่ไม่สะดวกในการล่องเรือออกไปชมวาฬ
- ช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน จะมีโอกาสพบปลาวาวาฬบลูด้าได้บ่อย ซึ่งเป็นอีกช่วงที่วาฬจะขึ้นมากินอาหารและมีการจัดเทศกาลชมปลาวาวาฬบลูด้าที่จังเพชรบุรีอีกด้วย
- ช่วงปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนธันวาคม เป็นช่วงที่สามารถล่องเรือออกไปชมวาฬได้ง่าย เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศแจ่มใส ไม่มีมรสุม จึงสามารถพบเห็นปลาวาวาฬบลูด้าได้ง่าย
ดูปลาวาวาฬบลูด้าได้ที่ไหนบ้าง?
ปลาวาฬบลูด้าจะสามารถพบเจอได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันตามเกาะต่างๆ ดังนี้
- อ่าวไทย โดยเฉพาะในช่วงสิงหาคม-พฤศจิกายน จะพบบ่อยในบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนที่ลากยาวมากตั้งแต่อ่าวบางตะบูน แหลมผักเบี้ย และหาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ทั้งในกรุงเทพฯ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ตลอดจนประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี
- อันดามัน จะพบในบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา เกาะพระทอง เกาะราชาน้อยและเกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น
อยากไปชมปลาวาฬบลูด้าต้องทำอย่างไร?
หากอยากไปชมปลาวาฬบลูด้าสามารถเดินทางไปที่จังหวัดต่างๆ ดังกล่าวได้ และขึ้นเรือเพื่อออกไปชมวาฬกลางท้องทะเลได้ตามจุดขึ้นเรือ ดังต่อไปนี้
- จังหวัดสมุทรสาคร
จุดขึ้นเรือจะอยู่ที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ หรือจุดขึ้นเรือบางขุนเทียน กรุงเทพฯ นั่นเอง ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีบริการล่องเรือจากหลากหลายเจ้า สามารถเดินทางง่ายมาขึ้นเรือได้ง่ายและยังใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย
- จังหวัดเพชรบุรี
- บ้านบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม เป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมที่ผู้คนมักจะมาใช้บริการล่องเรือที่นี่ อีกทั้งยังมีร้านค้าและร้านอาหารบรรยากาศดีริมทะเลอีกด้วย
- ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จุดนี้จะสามารถเช่าเรือล่องชมวาฬของชมรมวาฬบลูด้าได้ รวมถึงมีกิจกรรมทางทะเลอื่นๆ ให้สามารถเลือกเล่นได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การปล่อยลูกปู การปลูกป่าโกงกาง ตลอดจนการเก็บหอยและล่องเรือชมทะเลแหวก
- หาดเจ้าสำราญ จุดนี้จะส่วนใหญ่จะเป็นการขึ้นเรือไปดูปลาวาฬบลูก้าในเทศกาลชมวาฬ ทานปู @หาดเจ้าสำราญ ซึ่งจะมีกิจกรรมและบูธอาหารอีกมากมายภายในงานให้สามารถเดินเที่ยวเล่นได้อีกด้วย
โดยเรือสำหรับล่องชมปลาวาฬบลูก้าจะมีตั้งแต่เรือธรรมดาไปจนถึงเรือยอร์ช มีทั้งแบบกรุ๊ปและแบบเหมาลำ ซึ่งแต่ละเจ้าจะมีบริการเสริมที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น บริการอาหาร บริการเครื่องดื่ม บริการถ่ายรูป เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การออกเรือไปชมปลาวาฬบลูก้าควรจอดเรือให้ห่างจากฝูงวาฬในช่วง 100 เมตร และไม่ควรส่งเสียงดังขณะออกเรือชมวาฬ เพราะจะทำให้วาฬตื่นตกใจและยังเป็นการรบกวนระบบสื่อสารของวาฬอีกด้วย นอกจากนี้ยังควรทำประกันการเดินทางไว้ก่อนเดินทางไปล่องเรือชมวาฬ เพื่อเป็นการคุ้มครองอุบัติเหตุและเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดจากการเดินทางได้ โดยสามารถเลือกแผนกรมธรรม์ของประกันการเดินทางในประเทศที่คุ้มค่าได้ผ่าน Rabbit Care